ค้นหาจุดหมายของท่าน
10 สถานที่เที่ยวกรุงโตเกียวในฤดูใบ้ไม้เปลี่ยนสี ต้องไปเช็คอินให้ได้
โพสเมื่อ 10 ม.ค. 2563
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเยี่ยมชมและสัมผัสถึงความงดงามได้เป็นอย่างดี คือ การท่องเที่ยวญี่ปุ่นทางธรรมชาติที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะในช่วงของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่จะมีในช่วงระยะเวลาของฤดูหนาวที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ความสวยงามนี้มาพร้อมความสดชื่นด้วยการสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติแท้ 100% เพราะใบไม้ทั้งในสวนสาธารณะและพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ จะพากันเปลี่ยนสีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เรียกว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่สีสันแห่งธรรมชาติที่ให้ความสวยงามกว่าสีสันภายในเมืองเป็นเท่าตัว ว่าแต่จะไปเช็คอินพิกัดไหนดี? วันนี้ไปเที่ยวด้วยกันจะพาท่านไปทัวร์ญี่ปุ่น ตามเรามามาทางนี้เลยค่ะ
1
สวนชินจูกุ หรือ Shinjuku Gyo-en
สวนชินจูกุ หรือ Shinjuku Gyo-en
สวนชินจูกุหรือ Shinjuku Gyo-en
เป็นจุดชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โดดเด่นที่สุดภายในญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ
การจัดสวนของที่นี่คือสวยมาก
เป็นการนำเอาการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นมามิกซ์กับแนวจัดสวนของทางยุโรป
ซึ่งที่นี่มีพื้นที่กว้างกว่า 360 ไร่ แล้วพอถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ที่นี่จะสวยมากๆ สีสันของใบไม้จะตัดกันชนิดที่ว่าตะลึงอ่ะ
ที่สำคัญคือสวนแห่งนี้อยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งในย่านชินจูกุด้วยค่ะ
ชมธรรมชาติกันฟิน ๆ แล้วก็เช็คอินกันต่อที่ชินจูกุกันเลย
จุดเด่นของสวนนี้คือการอนุรักษ์คฤหาสน์ตระกูลไนโตที่เป็นไดเมียวสมัยช่วงเอโดะไว้ได้เป็นอย่าง
สำหรับเวลาเข้าสวนนั้นจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึง 16.30 น.
สวนนี้จะเก็บค่าเข้าชมของผู้ใหญ่ที่ 500 เยน
และเด็กนักเรียนกับนักเรียนมัธยมต้นจะเสียเพียง 250 เยนค่ะ
- สวนชินจูกุ -
2
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนสวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนต้นแปะก๊วย ทั้งนี้เพราะทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยสีสันสดใส ถึง 146 ต้น ความยาวถนนก็ราว ๆ 300 เมตร และจุดนี้ก็มักจะใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำซีรี่ส์แนวรักโรแมนติกหลายเรื่อง อย่างฉากถนนทอดยาวไปด้วยใบไม้สีเหลืองอร่ามสวยสดใสนี่ก็มาจากบรรยากาศของสวนเมจิจิงกูไกเอ็นทั้งหมดเลยล่ะ สำหรับช่วงเวลาปกติที่นี่ต้นไม้จะเป็นสีเขียวสด แต่เมื่อเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นสีเหลืองทองที่สวยงามอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ต้นแปะก๊วยกลายเป็นสีเหลืองทองนี้จะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ
- สวนเมจิจิงกูไกเอ็น -
3
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนนี้เดิมเป็นหมู่บ้านนักกีฬาเก่าในช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกค่ะ แล้วต่อมาถูกปรับให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงฤดูหนาวก็จะมีใบไม้หลากสีสัน งามตามากๆ และสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นที่มักจะมาปูผ้าปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือวิ่งออกกำลังกายในวันหยุดแบบชิลๆ ภายในสวนจะมีทั้งร้านขายของและความบันเทิงจากเหล่าศิลปินเปิดหมวกต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
- สวนโยโยงิ -
4
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ
- สวนริคุกิเอ็น -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
1
สวนชินจูกุ หรือ Shinjuku Gyo-en
สวนชินจูกุ หรือ Shinjuku Gyo-en
สวนชินจูกุหรือ Shinjuku Gyo-en เป็นจุดชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โดดเด่นที่สุดภายในญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ การจัดสวนของที่นี่คือสวยมาก เป็นการนำเอาการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นมามิกซ์กับแนวจัดสวนของทางยุโรป ซึ่งที่นี่มีพื้นที่กว้างกว่า 360 ไร่ แล้วพอถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จะสวยมากๆ สีสันของใบไม้จะตัดกันชนิดที่ว่าตะลึงอ่ะ ที่สำคัญคือสวนแห่งนี้อยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งในย่านชินจูกุด้วยค่ะ ชมธรรมชาติกันฟิน ๆ แล้วก็เช็คอินกันต่อที่ชินจูกุกันเลย จุดเด่นของสวนนี้คือการอนุรักษ์คฤหาสน์ตระกูลไนโตที่เป็นไดเมียวสมัยช่วงเอโดะไว้ได้เป็นอย่าง สำหรับเวลาเข้าสวนนั้นจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึง 16.30 น. สวนนี้จะเก็บค่าเข้าชมของผู้ใหญ่ที่ 500 เยน และเด็กนักเรียนกับนักเรียนมัธยมต้นจะเสียเพียง 250 เยนค่ะ
สวนชินจูกุหรือ Shinjuku Gyo-en เป็นจุดชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โดดเด่นที่สุดภายในญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ การจัดสวนของที่นี่คือสวยมาก เป็นการนำเอาการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นมามิกซ์กับแนวจัดสวนของทางยุโรป ซึ่งที่นี่มีพื้นที่กว้างกว่า 360 ไร่ แล้วพอถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จะสวยมากๆ สีสันของใบไม้จะตัดกันชนิดที่ว่าตะลึงอ่ะ ที่สำคัญคือสวนแห่งนี้อยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งในย่านชินจูกุด้วยค่ะ ชมธรรมชาติกันฟิน ๆ แล้วก็เช็คอินกันต่อที่ชินจูกุกันเลย จุดเด่นของสวนนี้คือการอนุรักษ์คฤหาสน์ตระกูลไนโตที่เป็นไดเมียวสมัยช่วงเอโดะไว้ได้เป็นอย่าง สำหรับเวลาเข้าสวนนั้นจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึง 16.30 น. สวนนี้จะเก็บค่าเข้าชมของผู้ใหญ่ที่ 500 เยน และเด็กนักเรียนกับนักเรียนมัธยมต้นจะเสียเพียง 250 เยนค่ะ

- สวนชินจูกุ -
2
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนสวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนต้นแปะก๊วย ทั้งนี้เพราะทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยสีสันสดใส ถึง 146 ต้น ความยาวถนนก็ราว ๆ 300 เมตร และจุดนี้ก็มักจะใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำซีรี่ส์แนวรักโรแมนติกหลายเรื่อง อย่างฉากถนนทอดยาวไปด้วยใบไม้สีเหลืองอร่ามสวยสดใสนี่ก็มาจากบรรยากาศของสวนเมจิจิงกูไกเอ็นทั้งหมดเลยล่ะ สำหรับช่วงเวลาปกติที่นี่ต้นไม้จะเป็นสีเขียวสด แต่เมื่อเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นสีเหลืองทองที่สวยงามอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ต้นแปะก๊วยกลายเป็นสีเหลืองทองนี้จะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ
- สวนเมจิจิงกูไกเอ็น -
3
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนนี้เดิมเป็นหมู่บ้านนักกีฬาเก่าในช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกค่ะ แล้วต่อมาถูกปรับให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงฤดูหนาวก็จะมีใบไม้หลากสีสัน งามตามากๆ และสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นที่มักจะมาปูผ้าปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือวิ่งออกกำลังกายในวันหยุดแบบชิลๆ ภายในสวนจะมีทั้งร้านขายของและความบันเทิงจากเหล่าศิลปินเปิดหมวกต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
- สวนโยโยงิ -
4
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ
- สวนริคุกิเอ็น -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
2
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือ Icho namiki, Meiji Jingu Gaien
สวนสวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนต้นแปะก๊วย ทั้งนี้เพราะทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยสีสันสดใส ถึง 146 ต้น ความยาวถนนก็ราว ๆ 300 เมตร และจุดนี้ก็มักจะใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำซีรี่ส์แนวรักโรแมนติกหลายเรื่อง อย่างฉากถนนทอดยาวไปด้วยใบไม้สีเหลืองอร่ามสวยสดใสนี่ก็มาจากบรรยากาศของสวนเมจิจิงกูไกเอ็นทั้งหมดเลยล่ะ สำหรับช่วงเวลาปกติที่นี่ต้นไม้จะเป็นสีเขียวสด แต่เมื่อเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นสีเหลืองทองที่สวยงามอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ต้นแปะก๊วยกลายเป็นสีเหลืองทองนี้จะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ
สวนสวนเมจิจิงกูไกเอ็น หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนต้นแปะก๊วย ทั้งนี้เพราะทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยสีสันสดใส ถึง 146 ต้น ความยาวถนนก็ราว ๆ 300 เมตร และจุดนี้ก็มักจะใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำซีรี่ส์แนวรักโรแมนติกหลายเรื่อง อย่างฉากถนนทอดยาวไปด้วยใบไม้สีเหลืองอร่ามสวยสดใสนี่ก็มาจากบรรยากาศของสวนเมจิจิงกูไกเอ็นทั้งหมดเลยล่ะ สำหรับช่วงเวลาปกติที่นี่ต้นไม้จะเป็นสีเขียวสด แต่เมื่อเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นสีเหลืองทองที่สวยงามอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ต้นแปะก๊วยกลายเป็นสีเหลืองทองนี้จะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ

- สวนเมจิจิงกูไกเอ็น -
3
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนนี้เดิมเป็นหมู่บ้านนักกีฬาเก่าในช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกค่ะ แล้วต่อมาถูกปรับให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงฤดูหนาวก็จะมีใบไม้หลากสีสัน งามตามากๆ และสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นที่มักจะมาปูผ้าปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือวิ่งออกกำลังกายในวันหยุดแบบชิลๆ ภายในสวนจะมีทั้งร้านขายของและความบันเทิงจากเหล่าศิลปินเปิดหมวกต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
- สวนโยโยงิ -
4
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ
- สวนริคุกิเอ็น -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
3
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนโยโยงิ หรือ Yoyogi
สวนนี้เดิมเป็นหมู่บ้านนักกีฬาเก่าในช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกค่ะ แล้วต่อมาถูกปรับให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงฤดูหนาวก็จะมีใบไม้หลากสีสัน งามตามากๆ และสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นที่มักจะมาปูผ้าปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือวิ่งออกกำลังกายในวันหยุดแบบชิลๆ ภายในสวนจะมีทั้งร้านขายของและความบันเทิงจากเหล่าศิลปินเปิดหมวกต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
สวนนี้เดิมเป็นหมู่บ้านนักกีฬาเก่าในช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกค่ะ แล้วต่อมาถูกปรับให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงฤดูหนาวก็จะมีใบไม้หลากสีสัน งามตามากๆ และสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นที่มักจะมาปูผ้าปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือวิ่งออกกำลังกายในวันหยุดแบบชิลๆ ภายในสวนจะมีทั้งร้านขายของและความบันเทิงจากเหล่าศิลปินเปิดหมวกต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ

- สวนโยโยงิ -
4
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ
- สวนริคุกิเอ็น -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
4
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
สวนริคุกิเอ็น หรือ Rikugien
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ
ถ้าชอบแนวย้อนยุคแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ หน่อย ก็ต้องสวนริคุกิเอ็นค่ะ ที่นี่เป็นสวนเดินเล่นในแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม ถูกสร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ มีการจำลองพื้นที่ให้เป็นเนินเขาและมีสระน้ำพร้อมการจัดสวนที่คล้ายคลึงกับสวนญี่ปุ่นในสไตล์ไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น ที่ในอดีตเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวนโปรดของท่านโชกุน โทกุกาวะ สึนาโยชิ ส่วนภายในสวนจะมีต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้สีสวยอีกหลายชนิดที่มีมากถึง 560 ต้นเลยล่ะ กลางวันว่าสวยแล้วนะ กลางคืนยังสวยขึ้นไปอีกเพราะมีการเปิดไฟ light up อีกด้วย ได้ฟีลโรแมนติคสุดๆ ซึ่งก็สามารถฟินกันได้ถึง 21.00 น เลยค่ะ

- สวนริคุกิเอ็น -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
5
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
หุบเขามิทาเกะ หรือ Mitake Valley
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย
ไปต่อกันที่นอกเมืองบ้างค่ะ เราจะพาไปสูดอากาศสดชื่นๆ ของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ ที่หุบเขามิทาเกะกัน ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิดเรียงรายตามถนนสองข้างทาง ซึ่งความสวยงามของภูเขานี้เปรียบเสมือนภาพถ่ายแบบพาโนรามาที่หาได้ยาก นอกจากนี้คุณยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ การเดินทางก็ง่ายค่ะ ไปได้ทั้งทางรถหรือจะเดินลัดเลาะ ชิลล์ ๆ ไปตามเส้นทาง แบบถ่ายรูปไป เดินเล่นไป ซึ่งที่นี่ก็จะมีที่นั่งพักตามจุดต่างๆ ตลอดระยะทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงโรงกลั่นเหล้าโบราณที่เตรียมพร้อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วย

- หุบเขามิทาเกะ -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
6
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนฮามาริคิว หรือ Hamarikyu Gardens
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ
สวนแห่งนี้เป็นสวนกลางเมืองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกใหญ่ โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่าสระชิโอะอิริ โนะ อิเคะที่เป็นการผันน้ำทะเลจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวสระ จึงทำให้ระดับน้ำภายในสระนั้นจะเป็นไปตามช่วงเวลาของทะเลขึ้นและลง ซึ่งน้ำที่ถูกผันเข้ามานั้นจะเป็นแหล่งเดียวกันกับทะเลโตเกียว มีการสร้างสะพานและเรือนลอยน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนของใบไม้เปลี่ยนสี โดยเรือนนี้จะเป็นพื้นที่ดื่มชากับรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมการชมวิวที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนยังมีตลาดปลาด้วยนะ ใครพักไม่ไกลก็ซื้อกลับไปปรุงอาหารกันได้เลยค่ะ

- สวนฮามาริคิว -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
7
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
ภูเขาทาคาโอะ หรือ Mt. Takao
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ
อีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ให้บรรยากาศแห่งธรรมชาติแท้ๆ คือ ภูเขาทาคาโอะ ที่นี่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีนานาพันธุ์ มีทั้งสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม และสีเหลือง รวมไปถึงสีชมพูอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวตลอดเส้นทาง มีจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจำนวนมาก มีเส้นทางรถไฟสายริมหน้าผาที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนม และจุดชมวิวสวยๆ รวมไปถึงศาลเจ้าที่มีความงดงามของของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ใครมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะขอพรกันด้วยนะคะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินเท้าแบบชิลล์ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก หรือถ้าไม่ใช่สายเดินก็นั่งชมวิวเพลิน ๆ บน เคเบิ้ลคาร์ได้เช่นกันค่ะ

- ภูเขาทาคาโอะ -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
8
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น หรือ Koishikawa Korakuen
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน
สวนโคอิชิคาวะเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีริมน้ำที่ให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกอย่างมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยทัศนียภาพของสวนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากสวนของจังหวัดชิกะมาเป็นตัวต้นแบบ ส่วนของบริเวณแม่น้ำที่คุณสามารถนั่งชมวิวได้แบบสุดชิลล์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอาราชิยามะ เกียวโต และสะพานเป็นแบบซือเท็นเคียว ต้นไม้ภายในสวนจะให้สีสันที่สดใส มีทั้งสีแดงชาด สีเหลือง และสีส้ม ที่ให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฤดูใบไม้จะเปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มในช่วงฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมกราคม ที่สำคัญคือพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนยังมี Tokyo Dome City ที่เป็นศูนย์รวมสวนสนุก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และโรงแรมคอยให้บริการอย่างครบครัน

9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -
9
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก หรือ Imperial Palace East Gardens
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ
สวนชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ เพราะตั้งอยู่ในพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียลมีการจัดสวนสวยๆ ด้วยสไตล์ตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1657 ค่ะแต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นสวนสวยของพระราชวังที่ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง สวนที่นี่มีต้นไม้ต่าง ๆ อย่างเยอะเลยล่ะค่ะ พอถึงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสะพรั่งไปด้วยใบไม้สีสันสดใส ซึ่งก็เป็นสถานที่เช็คอินอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยล่ะค่ะ

- สวนแห่งพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งตะวันออก -